ตำนาน บางระจัน ชุมชนคนกล้า ประวัติศาสตร์ต้องจารึก

ขุนพลหมู่บ้านบางระจันที่ปกป้องบ้านเมือง

หมู่บ้านบางระจัน ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงศรีอยุธยา อันเคยเป็นเมืองหลวงของสยามในอดีต ในวันนี้คืออำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี หมู่บ้านแห่งนี้เป็นที่จดจำในประวัติศาสตร์สมัยที่ไทยกำลังทำสงครามเพทาอต่อต้านการรุกรานของชาวพม่า (พ.ศ. 2308–2310) ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของอาณาจักรอยุธยา ตามที่บันทึกเอาไว้ในประวัตศาสตร์ของประเทศไทย กองทัพพม่านำโดย “เนเมียวสีหบดี” จะยกทัพเคลื่อนพลมาทางเหนือ แต่ถูกหมู่บ้านบางระจันขวางเอาไว้นานกว่า 5 เดือน แต่ดูเหมือนว่าเรื่องราวจะไม่ได้เป็นจริงไปทั้งหมด

สงครามที่เกิดขึ้นกินระยะเวลาเพียง 5 เดือน นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2308 จนถึงปลายเดือนมกราคม พ.ศ. 2309 แถมกองทัพพม่าทางเหนือยังติดอยู่ที่พิษณุโลกในภาคกลางตอนเหนือของสยาม ตามที่พม่าได้เคยอ้างว่าพบกับกองทหารที่พยายามมาถ่วงเวลาการเดินทัพ แต่นั่นมันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแม่น้ำวัง ที่ไม่ได้อยู่ใกล้กับกรุงศรีอยุธยาเลย ในช่วงฤดูฝนช่วงสิงหาคม – ตุลาคม พ.ศ. 2308 นายพลชาวพม่าที่อยู่ใกล้กับกรุงศรีอยุธยาในตอนนั้นไม่ใช่เนเมียวสีหบดี แต่เป็นมังมหานรธาผู้ที่คุมกำลังทัพภาคใต้กำลังรอให้กองทัพพม่าทางเหนือปรากฏตัว เพื่อเข้าโจมตีเมืองหลวงของสยาม

วีรกรรมของชาวบ้านบางระจัน

หลังจากที่พม่าพยายามบุกโจมตีมากถึง 7 ครั้ง โดยทั้ง 7 ครั้ง ต้องประกับความพ่ายแพ้ไปอย่างน่าอับอาย ผู้นำชาวมอญจึงได้อาสาที่จะยกทัพไปปราบหมู่บ้านบางระจัน สิ่งที่ทำให้ผู้บัญชาการคนนี้แตกต่างจากผู้นำพม่าคนก่อน คือความรู้ของเขาเกี่ยวกับดินแดนและชาวสยาม รวมถึงเป็นคนที่มีความรอบคอบปราศจากความทะนงตน เขาไม่มีความคิดที่จะประมาทชาวบ้านแห่งนี้เลย แถมยังปรับกลยุทธ์เพื่อให้ตนได้เปรียบพวกเขา เขาส่งทหารย่องเข้าไปรอบหมู่บ้าน สร้างป้อมตามเส้นทางและเมื่อเผชิญหน้ากับชาวบ้านจะหลีกเลี่ยงที่จะสู้โดยตรง แต่จะกลับเข้ามาต่อสู้จากกำแพงป้อมภายใน

หมู่บ้านบางระจันต้องพบกับศึกหนัก แถมยังไม่มีปืนใหญ่เอาไว้ใช้ทำลายป้อมของอีกฝ่าย จึงเดินทางไปขอความช่วยเหลือจากกรุงศรีอยุธยา เพื่อขอยืมปืนใหญ่มาใช้สู้กับทหารพม่า แต่อยุธยาแสดงให้เห็นถึงความไม่แยแสตลอดช่วงสงครามที่เกิดขึ้นนี้ พวกเขาปฏิเสธมอบปืนใหญ่ให้ตามคำขอของชาวบ้านและปล่อยให้นักสู้ของหมู่บ้านล้มตายกันเป็นเบือ จากนั้นก็มีหนึ่งในผู้นำชาวบ้าน “นายทองเหม็น” ที่ขี่ควายออกไปลุยกับกองทัพพม่า ในสภาพเมาเหล้า ซึ่งเป็นเรื่องเล่าอันเป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้านบางระจัน เขาตายพร้อมๆกับพ้องเพื่อนร่วมรบทั้งหลาย และกลายเป็นความพ่ายแพ้ครั้งแรกของชาวบ้านโดยกองทัพชาวพม่า